ชื่อพรรณไม้ : หางนกยูงไทย
ชื่อภาษาอังกฤษ : Leguminosae - Caesalpinioideae.
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Caesalpinia pulcherrima (L.)
ชื่อวงษ์ : r fence, Peacock's crest, Pride of Barbados.
ลักษณะวิสัย : ไม้พุ่มเตี้ย
ลักษณะเด่นของพืช :
ไม้พุ่มเตี้ยชนิดหนึ่ง สูง 3-5 เมตร ทรงพุ่มกลม ต้นเกลี้ยงหรือมีหนาม ใบ ประกอบแบบขนนกสองชั้น ออกสลับ ช่อใบย่อยมีใบย่อย 7-11 คู่ รูปขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ ปลายมนหรือเว้า โคนเบี้ยว ดอก มีหลายสีตามพันธุ์ ได้แก่ เหลือง แดง ส้ม ชมพูแก่ แดงประขาว ดอกเป็นช่อ ตามซอกใบและปลายกิ่ง กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน เกสรตัวผู้ 10 อัน ออกดอกตลอดปี ผล เป็นฝักแบน เมื่อแก่แตกได้ ออกฝักตลอดปี เมล็ด 8-10 เมล็ด เมล็ดมีรูปร่างกลม
การนำมาใช้ประโยชน์ :
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ทางด้านสมุนไพร รากของต้นดอกสีแดง ปรุงเป็นยารับประทานขับประจำเดือน เมล็ดในฝักรับประทานได้โดยแกะเปลือกกับเมล็ดซึ่งมีรสฝาดทิ้งไป เนื้อในมีรสหวานมันเล็กน้อย
สรรพคุณ :
ดอกหางนกยูงสีเหลืองสามารถนำมาต้มกับน้ำ แล้วใช้อมเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันได้ (ดอกของต้นดอกเหลือง) รากมีรสเฝื่อน นำมาต้มหรือฝนกินเป็นยาแก้วัณโรคในระยะที่สาม (การนำมาใช้เป็นยาโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ต้นที่มีดอกสีแดง) (รากของต้นดอกแดง) เมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาถ่ายพยาธิ (เมล็ด) รากใช้ปรุงเป็นยาขับประจำเดือนของสตรี (รากของต้นดอกแดง) รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้บวม (ราก)
โทษของต้นไม้ :